สวัสดีปีใหม่ 2553


วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

โครงการพัฒนาปากน้ำปราณบุรี

โครงการพัฒนาปากน้ำปราณบุรี
http://www.rdpb.go.th/thai/important/0030/0030.html
โครงการพัฒนาปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ชื่อโครงการ โครงการพัฒนาปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
สถานที่ดำเนินการ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พระราชดำริ ให้จัดทำแนวเขตวนอุทยานให้ชัดเจน ตรวจสอบหลักฐานการถือครองที่ดินภายในวนอุทยาน
และพื้นที่ข้างเคียง และรักษาพื้นที่ป่าไม้ให้คงอยู่ต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ 1) การจัดทำเครื่องหมายแสดงแนวเขตพื้นที่ป่าไม้ เพื่อให้ทราบถึงแนวเขตวนอุทยานปราณบุรี
ป่าสงวนแห่งชาติคลองเก่า-คลองคอย พร้อมทั้งสำรวจตรวจสอบหลักฐานการ ถือครองที่ดิน
ของราษฎรในพื้นที่โครงการ และข้างเคียงเพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่
2)จัดตั้งจุดพิทักษ์วนอุทยาน จำนวน 4 จุด เพื่อป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และป่าชายเลน
บริเวณพื้นที่วนอุทยานปราณบุรี
3) การปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในวนอุทยาน เพื่อพัฒนาพื้นที่ให้เป็นสถานที่ศึกษาธรรมชาติ
และระบบนิเวศป่าชายเลน สร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีความรัก และเห็นคุณค่าของธรรมชาติ
4) การฟื้นฟูป่าชายเลนในเขตป่าสงวนแห่งชาติคลองเก่า-คลองคอย เนื้อที่ 1,000 ไร่ เพื่อฟื้นฟู
สภาพพื้นที่ซึ่งเป็นนากุ้งเดิมให้มีสภาพเป็นป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์
หน่วยงานรับผิดชอบ สำนักงานป่าไม้เขตเพชรบุรี กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ประโยชน์ของโครงการ 1. สามารถป้องกันรักษาพื้นที่วนอุทยานให้คงอยู่ต่อไป
2. ทำให้มีแนวเขตวนอุทยานที่ชัดเจน ซึ่งง่ายต่อการดูแลรักษา
3. สามารถรักษาสภาพแวดล้อมและป่าชายเลนให้มีความสมดุลย์ ของระบบนิเวศน์
4. เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ของประชาชน

ผลการดำเนินงาน 1) โครงการจัดทำเครื่องหมายแสดงแนวเขตรอบพื้นที่วนอุทยานปราณบุรี
และป่าสงวนแห่งชาติคลองเก่า-คลองคอย เนื้อที่ 1,984 ไร่ ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการทำรังวัด
แนวเขต และทำหลักเขตวนอุทยานเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2) ที่ดินในเขตวนอุทยานปราณบุรี ที่มีเอกชนครอบครอง จำนวน 2 ราย คือ ที่ดินของนายวิชิต
วิกรานตโนรส เนื้อที่ 25 ไร่ มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน และของบริษัทภัทร เรียลเอสเตส จำกัด
โดยมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.) เนื้อที่ 39 ไร่ ซึ่งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา
ที่ดินระดับจังหวัด โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (ม.ล.ประทีป จรูญโรจน์)
เป็น ประธาน ได้พิจารณาตรวจสอบแล้วปรากฎว่าเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ออกโดยมิชอบตามกฎหมาย
และได้ นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์
ของที่ดินทั้ง 2 ราย ดังกล่าวแล้ว และคณะกรรมการฯ ได้มีการประชุมตรวจสอบ
พิจารณาที่ดินดังกล่าว เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2541 ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้กรมป่าไม้ผู้เป็นเจ้าของ
หรือผู้ดูแลใช้ประโยชน์ดำเนินการ ฟ้องร้องกับเจ้าของที่ดิน สำหรับที่ดินที่อยู่บริเวณ
นอกเขตวนอุทยาน ซึ่งเป็นของบริษัทปราณบุรี เรียลเอสเตส จำกัด มีเนื้อที่ประมาณ 250 ไร่
ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า เอกสารสิทธิ์โดยมิชอบตามกฎหมาย
และจากการประชุมเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2541 ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ดำเนินการตรวจสภาพ และรวบรวมข้อเท็จจริง เพิ่มเติม โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เพื่อนำเสนอต่อกรมที่ดิน เพื่อพิจารณานำผลการพิจารณา มาประกอบดำเนินการ
ตามอำนาจหน้าที่ของจังหวัดต่อไป
3) ในปี 2540 กรมป่าไม้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กปร. เพื่อดำเนินการก่อสร้าง
จุดพิทักษ์วนอุทยาน จำนวน 4 จุด และการจัดทำทางเดินศึกษาธรรมชาติในป่าชายเลนระยะทาง
1,000 เมตร พร้อมซุ้มสื่อความหมาย จำนวน 5 ซุ้ม ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างทางเดิน
ดังกล่าวไปแล้ว 400 เมตร และซุ้มสื่อความหมาย จำนวน 2 ซุ้ม ซึ่งตามแผนคาดว่าจะแล้วเสร็จ
ในปลายเดือนมกราคม 2542 นอกจากนี้ สโมสรไลออนส์ กรุงเทพ (คอสโมโปลแตน) ร่วมกับ
สโมสรไลออนส์ แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ให้การสนับสนุนในการดำเนินการก่อสร้างอาคาร พร้อมทั้ง
อุปกรณ์เพื่อใช้จัดแสดงนิทรรศการและประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในการให้
ความรู้และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการฯ ให้แก่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการฯ ซึ่งขณะนี้ได้
ดำเนินการก่อสร้างอาคารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการจัดหาอุปกรณ์ เพื่อใช้
ในการดำเนินงาน
4) การฟื้นฟูป่าชายเลน ได้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ซึ่งเป็นนากุ้งเดิม มีเนื้อที่จำนวน 1,000 ไร่
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติคลองเก่า-คลองคอย โดยการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการ
ปลูกป่าชายเลนไปแล้ว ได้ดำเนินการปลูกป่าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น